ปรับลุค เปลี่ยนแพคเกจจิ้งให้ยอดขายปัง!!!

ปรับลุค เปลี่ยนแพคเกจจิ้งให้ยอดขายปัง!!!

   คุณเคยสังเกตไหมว่า สินค้าอะไรก็ตามที่บรรจุลงในถุงพลาสติกธรรมดาๆ หรือ ไม่มีกล่องสวยๆ ใส่สินค้า มักจะขายในราคาที่ไม่แพง แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้า วันนี้ BKK PAPER BOX มีเทคนิคที่ทำให้สินค้าชิ้นเดิมของคุณสามารถขายได้ราคาที่สูงขึ้น ได้กำไรมากขึ้น เปิดกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น เพียงแค่คุณปรับกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ลงทุนอีกนิด เพื่อกำไรที่มากขึ้นค่ะ ไปดูเทคนิคนี้กันค่ะ


   1. สำรวจ โดยการเอาตัวออกไปข้างนอก เดินเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อถามสิ่งที่อยู่ในใจ สังเกตพฤติกรรมการบริโภคพร้อมดูไลฟ์สไตล์ของเขา เพื่อควานหาความต้องการลึกๆ ที่อยู่ในใจของผู้บริโภค ว่ามีอะไรบ้าง แต่ขอบอกก่อนเลยว่า มันไม่ง่าย บางครั้งเราต้องถามบ่อยๆ เจาะลึกเข้าไปข้างใน แล้วนำผลที่ได้มาวิเคราะห์หาความต้องการที่แท้จริง

   2. สร้างสรรค์ หยุดพฤติกรรมคิดเอง ออกแบบเองได้ เราควรลงทุนจ้างนักออกแบบมากประสบการณ์ เพื่อแปลงข้อมูลผลวิเคราะห์จากการสำรวจสู่งานออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค

   3. ทดสอบ ก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์วางขาย เราควรทดสอบต้นแบบกับผู้บริโภคก่อน ชิ้นงานไหนที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ก็มีความจำเป็นต้องนำไปออกแบบใหม่ และถ้าผลตอบรับเลวร้ายไปกว่านั้น เราอาจต้องกลับไปดูการสำรวจอีกครั้ง ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นสำรวจใหม่เลยก็เป็นได้ แต่ถ้าต้นแบบโดนใจทุกความต้องการของผู้บริโภค ผลงานชิ้นนั้นก็จะเดินทางเข้าสู่กระบวนการผลิต วางจำหน่ายทันที

   นอกจากงานออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าแล้ว บรรจุภัณฑ์ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับสินค้าที่อยู่ภายใน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ อย่าลืมว่าบรรจุภัณฑ์บางชิ้น ทำหน้าที่เป็นเซลแมนขายสินค้าบนชั้นวางขายอย่างเงียบๆ ดังนั้น การเลือกใช้ภาพ ลักษณะตัวอักษร การจัดวางองค์ประกอบ วัสดุที่ใช้ รวมไปถึงกระบวนการพิมพ์ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสื่อสารผ่านบรรจุภัณฑ์

   BKK PAPER BOX คัดตัวอย่างสินค้าที่ได้ปรับเปลี่ยนลุคกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) แล้วทำให้ดูน่าสนใจกว่าเดิมกันค่ะ


   1. กล่องลิปสติก ในภาพเป็นกล่องลิปสติกที่เลียบแบบกล่องบุหรี่ที่ดูแล้วจัดจ้านไม่แพ้กับสีของลิปสติกด้านใน แบบเดิมๆที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ จะเป็นกล่องใส่ลิปสติกแท่งเดียว แต่เมื่อปรับลุคกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ใหม่ ก็ทำให้ดูน่าซื้อมาลองใช้มากขึ้น

 



   2. กล่องใส่อายไลน์เนอร์ โดยทั่วไปจะบรรจุลงในกล่องกระดาษอาร์ตการ์ด แต่เมื่อปรับเป็นกล่องกระดาษคราฟท์ก็ทำให้ดูแปลกตา แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งทำให้กล่องสินค้าดูโดดเด่นมากขึ้น

 


   3. กล่องชานมไข่มุก แบรนด์ Mr.Shake ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เอาใจลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางมาซื้อที่ร้านหรือบ้างครั้งอยากทานชานมตอนดึกๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะทำสินค้าเป็นแบบชงเองได้ที่บ้าน แล้วออกแบบเพคเกจจิ้งเป็นกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) น่ารักๆ สีสันสดใส เอาใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นด้วย


   4.กล่องขนม กล่องของฝาก ในประเทศไทยมีสินค้าประเภทขนมของฝากเยอะมาก แล้วขายใรสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งการทำกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ให้น่าซื้อก็ส่งผลต่อยอดการขายด้วย เช่น จากเดิมขายกล้วยตากบรรจุใส่ถุงหรือกล่องพลาสติดใส ซึ่งดูไม่แปลกตา แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นกล่องพิมพ์ลวดลาย สีสันสดใส ภาพลักษณ์ของสินค้าดูดี เหมาะกับการซื้อเป็นของฝาก ส่งผลให้เพิ่มราคาขายได้มาก และได้กำไรมากขึ้นด้วย



   5.สายคาดสินค้า เหมาะสำหรับสินค้าที่ไม่สามารถใส่กล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ได้หรือยังมีความจำเป็นที่ต้องใส่ถุงพลาสติกอยู่ BKK PAPER BOX แนะนำให้ทำเป็นสายคาดสินค้าแทนการม้วนปากถุงแล้วแม็กเย็บตามที่เราเคยเห็นกันทั่วไป เพราะเมื่อทำสายคาดสินค้าแล้วทำให้สินค้าดูมีมูลค่ามากขึ้น อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ชื่อแบรนด์ รายละเอียดสินค้าลงบนสายคาดได้ เพื่อเป็นการโปรโมทแบรนด์ได้ด้วยค่ะ



   6.ที่หิ้วแก้ว ช่วงนี้ร้านขายเครื่องดื่มมีมากมายหลายร้าน เช่ย ร้านชานมไข่มุก ร้านกาแฟ เป็นต้น ซึ่งนอกจากเจ้าของร้านต้องแข็งกันเรื่องรสชาติแล้ว ก็ต้องแข่งขันเรื่องการทำการตลาดด้วยใช่ไหมคะ เทคนิคง่ายๆ ในการโปรโมทร้านเครื่องดื่มคือ ลองเปลี่ยนแพคเกจจิ้งให้แตกต่าง เช่น ใช้ที่หิ้วแก้วที่ทำจากกระดาษคราฟท์แทนการใส่ถุงพลาสติก เมื่อลูกค้าซื้อเครื่องดื่มร้านไป ที่หิ้วแก้วที่มีชื่อแบรนด์ร้านของคุณก็จะทำหน้าที่โฆษณาด้วยตัวเอง ลูกค้าเห็นอาจถ่ายรูปแล้วนำไปโพสต์บนสื่อโซเชี่ยล ร้านของคุณก็ได้การโฆษณาจากลูกค้าอีกต่อโดยที่ไม่ต้องลงทุนซื้อโฆษณา

   ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการปรับลุค เปลี่ยนแพคเกจจิ้ง (packaging) แล้วสามารถทำให้ยอดขายดีขึ้น ซึ่งใครที่กำลังจะทำธุรกิจ หรือเปิดร้านขายสินค้าและบริการ ที่มีคู่แข่งขันอยู่แล้วท้องตลาด การที่จะแข่งขันได้ต้องฉีกตัวเองให้แตกต่าง มีเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าของเราได้ค่ะ

   หากต้องการคำปรึกษาเรื่องการออกแบบและการผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) สามารถปรึกษากับ BKK PAPER BOX ได้ที่ โทร.0956519893 หรือ LINE@ : @bkkpaperbox

ข้อมูลจาก www.thaismescenter.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้